จัดฟันแบบ Self Ligating System

เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน

การจัดฟันแบบ Self Ligating System คือะไร

จัดฟันแบบ Self-Ligating System คือ เครื่องมือจัดฟันที่มีนวัตกรรมใหม่ ที่ไม่ต้องใช้ยางรัด แต่ใช้กลไกการบานพับขนาดเล็กที่ยึดกับลวดอย่างหลวมๆ  เครื่องมือแบร็คเก็ต (Bracket) หรือวัสดุยึดติดกับฟันมีหลายยี่ห้อ เช่น Damon™  Empower และ Clippy

เครื่องมือจัดฟันแบบ Self-ligating จะความโดดเด่นอยู่ที่เครื่องมือทั้งระบบทำงานได้อย่างอิสระด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งยางมัดเข้ากับลวดเพื่อดึงฟัน ทำให้การเคลื่อนฟันใช้ความฝืดต่ำ ใช้เเรงดึงฟันที่น้อย ฟันเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น โดยที่ไม่เกิดความเจ็บปวดเมื่อปรับเครื่องมือจัดฟัน อีกทั้งเมื่อใช้ร่วมกับยางดึงฟันหรือหมุดจัดฟันจะสามารถเคลื่อนฟันได้มีประสิทธิภาพกว่าการจัดฟันแบบธรรมดา

ความแตกต่างระหว่างจัดฟันแบบ Self-ligating กับการจัดฟันธรรมดา

หลักการการจัดฟันธรรมดา จะใช้ยางรัดฟัน เป็นตัวยึดเเบร็คเก็ตเเละลวดจัดฟันเข้าด้วยกัน เพื่อดึงให้ฟันเคลื่อนตัว แต่ข้อเสียคือ แรงดึงของยางที่สูง เกิดความฝืดมาก ส่งผลให้คนไข้จะรู้สึกปวดฟัน 3 – 5 วันแรกในช่วงที่แรงดึงยางค่อนข้างสูง และจะลดลงอย่างรวดเร็วในวันต่อๆมา ทำให้คนไข้ต้องมาพบทันตแพทย์ทุกๆเดือนเพื่อเปลี่ยนยางเเละปรับเครื่องมือจัดฟัน ฟันจะเคลื่อนตัวได้ช้ากว่า เพราะเเรงดึงที่ไม่สม่ำเสมอ แรงดึงของยางรัดฟันจะลดลงเรื่อยๆ ทำให้ไม่สามารถรัดลวดให้อยู่กับแบร็คเก็ต(เหล็กจัดฟัน)ได้อย่างเต็มที่ในช่วงท้ายๆของเดือน อาจทำให้ลวดหลุดออกมาและเสียการควบคุมฟันไป

แต่จัดฟันแบบ Self-ligating เนื่องจากที่เครื่องมือสามารถยึดลวดได้ด้วยตัวเอง จึงไม่ต้องใส่ยางรัดฟัน การเคลื่อนที่ของฟันจึงเกิดได้เร็วขึ้น และใช้แรงในการดึงฟันที่ค่อนข้างน้อย คนไข้แทบจะไม่รู้สึกเจ็บปวด อีกทั้งยังไม่ต้องมาปรับเครื่องมือบ่อยๆทุกๆเดือน

ขั้นตอนการจัดฟันแบบ Self-ligating

  1. เข้าพบทันตแพทย์รับคำปรึกษาเบื่องต้น
  2. ตรวจสุขภาพช่องปาก x-ray ฟัน และสแกนฟัน
  3. ทันตแพทย์จะทำการเคลียร์ช่องปาก อาทิ ขูดหินปูน ถอนฟัน อุดฟัน ผ่าฟันคุด ให้เรียบร้อยเพื่อเตรียมพร้อมสภาพช่องปาก
  4. ทันตแพทย์วางแผนการรักษา เเละเริ่มทำการติดเครื่องมือจัดฟัน ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ฟันเเละช่องปากของคนไข้เเต่ละบุคคล ว่าสามารถติดเครื่องมือพร้อมกันทั้งฟันบนเเละฟันล่างหรือไม่
  5. เมื่อทันตแพทย์ติดเครื่องมือเสร็จ ก็จะนัดคนไข้ทุกๆ 6-8 สัปดาห์ เพื่อปรับลวดให้ฟันเคลื่อนทที่เข้าตามแผนการรักษาที่วางไว้

Similar Posts

  • จัดฟันใส

    เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน Invisalign คืออะไร Invisalign หรือ การจัดฟันแบบใส คือ การใช้เครื่องมือจัดฟันแบบถอดได้ที่มีความใส ลักษณะเป็นถาดสวมทับไปบนฟัน และค่อยๆเคลื่อนฟันไปทีละน้อยไปสู่ตำแหน่งที่ทันตแพทย์ออกแบบไว้ โดยเครื่องมือจะถูออกแบบและวางแผนการรักษาโดยใช้เทคโนโลยีการสร้างภาพสามมิติ และนำมาผลิตชุดเครื่องมือจัดฟันเฉพาะสำหรับแต่ละคนขึ้นมา โดยภาพโปรแกรมสามมิติจะแสดงภาพของการเคลื่อนที่ของฟันทีละขั้นตอน จากแรกเริ่มของการทำงานจนกระทั่งฟันเรียงตัวจนสวยงาม และเครื่องมือจัดฟันแบบใสนั้นจะทำงานตามขั้นตอนต่าง ๆ ดังภาพสามมิติที่แสดงไว้ โดยเครื่องมือจัดฟันแต่ละชุดจะมีการกำหนดตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้ฟันเคลื่อนที่ไปตามทิศทางนั้น ๆ คนไข้จะต้องใส่เครื่องมือตลอดเวลาตามที่ทันตแพทย์แนะนำ หลักการทำงานของการจัดฟันใส Invisalign ใช้เทคโนโลยีสแกนช่องปาก 3D เพื่อตรวจสอบสภาพฟัน และวางแผนการจัดฟันอย่างเป็นระบบโดยทันตแพทย์ จากนั้นแผนการรักษาแบบ 3D จะถูกส่งไปผลิตชุดอุปกรณ์จัดฟัน ที่มีลักษณะเป็นถาดสีใส ซึ่งออกแบบเฉพาะของคนไข้แต่ละคน ซึ่งหลักการจัดฟันแบบนี้นั้น คนไข้จะต้องใส่ชุดจัดฟัน Invisalign ตามระยะเวลาที่ทันตแพทย์กำหนด ร่วมกับการติดวัสดุบนผิวฟันที่เรียกว่า Attachment ที่เป็นส่วนสำคัญที่ทำหน้าที่กำหนดการเคลื่อนที่ของฟัน เครื่องมือจะกดและขยับฟันไปยังตำแหน่งที่วางแผนไว้ โดยจะใส่ชิ้นงานประมาณ 7-14 วัน/คู่ และเปลี่ยนใส่เครื่องมือคู่ถัดไปเมื่อถึงเวลาที่กำหนด ข้อดีของการจัดฟัน Invisalign ข้อจำกัดของการจัดฟัน Invisalign การปฏิบัติตัวระหว่างจัดฟัน Invisalign

  • การรักษาฟันที่ประสบอุบัติเหตุ

    เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน ลักษณะของฟันที่เกิดจากการประสบอุบัติเหตุ ฟันที่เกิดจากการประสบอุบัติเหตุมักจะอยู่ในรูปแบบของ ฟันหัก ฟันบิ่นแตก (Broken tooth / Chipped tooth) สามารถพบได้กับทุกเพศทุกวัย มักเกิดจากการกระทบกระเทือนจากอุบัติเหตุ หรือพฤติกรรมอื่น ๆ ที่เสี่ยงกับการกระทบโครงสร้างของฟัน เช่น เคี้ยวของแข็งจนฟันแตก เป็นต้น ผลกระทบจากการได้ไม่รับการรักษา วิธีปฏิบัติตัวและปฐมพยาบาลเบื้องต้น

  • จัดฟัน

    เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน การจัดฟันคืออะไร การจัดฟัน (Orthodontics) เป็นสาขาหนึ่งในทางทันตกรรม ที่ให้การวินิจฉัย ป้องกัน และรักษาความผิดปกติ ของการเรียงฟัน และการสบฟัน รวมทั้งปัญหาความผิดปกติของขนาดและความสัมพันธ์ของขากรรไกรต่อใบหน้า การจัดฟัน เป็นการรักษาเพื่อให้มีการสบฟันที่ดีขึ้น เพื่อการบดเคี้ยวอาหารที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งลดอัตราเสี่ยงในการเกิดฟันผุหรือโรคเหงือกอันเนื่องมาจากความลำบากในการทำความสะอาดฟันและเหงือก ในบริเวณที่ฟันเรียงตัวผิดปกติ หลีกเลี่ยงการเกิดการสึกของฟันที่ผิดปกติจาการเรียงฟันหรือสบฟันที่ไม่เหมาะ สม นอกจากนี้ยังอาจช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพจากการที่มีฟันเรียงกันสวยงาม ฟันแบบไหนที่ควรจัดฟัน 1. การสบฟันที่ผิดปกติการสบฟันที่ดี คือการที่ฟันเรียงตัวกันอย่างถูกต้อง เหมาะสม ฟันล่างและฟันบนจะต้องสบเข้าคู่กันเรียงตัวกันชิดไม่มีช่องว่าง บิดหมุน หรือสบไขว้กัน ฟันหน้าบนสามารถยื่นครอบลงมากับฟันหน้าล่าง โดยสมมาตร การสบฟันผิดปกติจึงหมายถึงอาการผิดปกติที่ฟันบน หรือฟันล่าง ยื่นออกมาเกินขอบเขตที่ควรจะเป็น เช่น อาการฟันยื่น ฟันสบคร่อม ฟันล่างคร่อมฟันบน ฟันสบลึก เป็นต้น การสบฟันที่ผิดปกตินั้น นอกจากจะทำให้ภาพลักษณ์ภายนอกดูไม่สวยงาม ไม่มั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว ยังทำให้การบดเคี้ยวอาหารไม่สะดวก รวมถึงการทำความสะอาดที่ยากกว่าฟันที่เรียงตัวดี การสบฟันที่ผิดปกติเป็นอาการที่ไม่ควรละเลยอย่างยิ่ง หากไม่รีบแก้ไข อาจต้องใช้เวลา และมีความยากในการรักษามากยิ่งขึ้น 2. ฟันซ้อนเกฟันซ้อนเก เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการที่ฟันเรียงตัวกันไม่เป็นระเบียบ หรืออาจมีจำนวนฟันเพิ่มมากกว่าปกติ ทำให้เกิดความยากในการดูแลทำความสะอาด และสร้างปัญหาอื่นๆตามมา เช่น อาการเหงือกอักเสบ…

  • รากฟันเทียม

    เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน รากฟันเทียมคืออะไร รากฟันเทียม คือ การรักษาเพื่อทดแทนฟันที่หายไปเนื่องจากฟันผุ โรคเหงือกหรืออุบัติเหตุ โดยใช้วัสดุที่มีรูปร่างคล้ายรากฟันฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร ซึ่งรากฟันเทียมเป็นหนึ่งในวิธีการทดแทนฟันที่ดีที่สุด โดยรากเทียมจะผลิตขึ้นจากวัสดุโลหะไทเทเนียม หรือเซรามิกที่สามารถเข้ากับร่างกายมนุษย์ได้ดี จากนั้นทันตแพทย์จะเป็นผู้ออกแบบรูปร่างและสีของครอบฟันบนรากเทียมให้มีความใกล้เคียงกับสีของฟันธรรมชาติมากที่สุด การใส่ฟันรากเทียมมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และมอบประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติ ทำให้คนไข้สามารถรับประทานอาหารได้ปกติ ช่วยเรื่องการพูดออกเสียง และความสวยงามอีกด้วย ประโยชน์อื่น ๆ ของการทำฟันรากเทียมคือช่วยลดการละลายของสันกระดูกตำแหน่งที่ฟันหายไป เนื่องจาก หลังจากเวลาผ่านไปกระดูกที่ทำหน้าที่รองรับรากฟันของซี่ที่ได้รับการถอนจะเกิดการละลาย ส่งผลให้เกิดการยุบตัวของกระดูกบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะจะกระทบบริเวณฟันหน้าด้านบน ส่งผลให้โครงหน้าเปลี่ยน มุมปากตก หน้ายุบ ดูมีอายุเกินวัย  แต่การทำฟันรากเทียมจะช่วยรักษากระดูกรองรับรากฟันไว้และช่วยคงไว้ซึ่งกระดูกส่วนนั้นให้คงอยู่สภาพเดิมและละลายได้ช้ากว่าทำ ทำให้คนไข้ยิ้มได้อย่างมั่นใจได้มากกว่า ส่วนประกอบของรากฟันเทียม ขั้นตอนการทำรากฟันเทียม ข้อดีของรากฟันเทียม ข้อจำกัดของรากฟันเทียม โดยทั่วไปผู้ที่สูญเสียฟันแท้ไปสามารถรักษาด้วยรากเทียมได้ แต่ไม่ยังแนะนำให้ทำในผู้ที่อายุยังไม่ถึง 20 ปีเนื่องจากกระดูกขากรรไกรยังเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ และในกรณีที่คนไข้สามารถทำการรักษาได้หลังจากช่วงคลอดและให้นมบุตรแล้ว ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น คนไข้โรคเบาหวานชนิดที่ไม่สามารถควบคุมได้ โรคมะเร็งที่รับการรักษาด้วยการฉายรังสีบริเวณใบหน้าและขากรรไกร คนไข้โรคปริทันต์อักเสบรุนแรง คนที่เป็นป่วยเป็นโรคลูคิเมีย ผู้ที่รับรักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกัน ยารักษากระดูกพรุนบางตัว หรือผู้ที่สูบบุหรี่จัด อาจไม่สามารรถทำการรักษาได้ หรืออาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาอื่นๆเพิ่มเติมก่อนทำการผ่าตัดฝังรากเทียม

  • ฟันคุด

    เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน ฟันคุด คืออะไร ฟันคุด คือ ฟันที่ไม่สามารถขึ้นมาในช่องปากได้ตามปกติ มีลักษณะการล้มเอียงของฟันที่ผิดปกติไปหรือมีพื้นที่ไม่เพียงพอให้ฟันขึ้น ทำให้เห็นฟันขึ้นเพียงฟันบางส่วน หรือไม่เห็นในช่องปากเลยเนื่องจากฟันฝังตัวอยู่ใต้เหงือกบริเวณกระดูกขากรรไกร โดยส่วนใหญ่จะพบได้ที่ตำแหน่งฟันกรามซี่ในสุด นอกจากนี้ยังพบได้ที่ตำแหน่งฟันเขี้ยว ฟันกรามน้อย หรือจุดที่เกิดฟันเกินได้อีกด้วย ฟันคุดเกิดจากอะไร ฟันคุดเกิดจากการพื้นที่บริเวณขากรรไกรมีไม่เพียงพอให้ฟันขึ้นได้อย่างเหมาะสม หรือการวางตัวของหน่อฟันที่ล้ม เอียง หรืออยู่ผิดตำแหน่ง อาจเป็นผลมาจากพันธุกรรมที่ขากรรไกรมีขนาดเล็ก แคบ หรือตัวฟันมีขนาดใหญ่กว่าปกติ ฟันคุดมีกี่แบบ โดยทั่วไปฟันคุดมี 2 แบบ แบ่งตามลักษณะของเนื้อเยื่อที่ปกคลุมฟันคุดได้ ดังนี้1. ฟันคุดแบบมีเหงือกปกคลุม (Soft Tissue Impaction) ลักษณะฟันคุดประเภทนี้ จะสามารถคลำได้ในช่องปาก จะมีเพียงเหงือกที่คลุมตัวฟันอยู่ บางกรณีอาจสามารถมองเห็นตัวฟันได้บางส่วน ฟันคุดประเภทนี้สามารถถอนได้ หรือผ่าแต่เหงือกโดยไม่ต้องกรอกระดูก2. ฟันคุดที่อยู่ภายใต้กระดูกขากรรไกร (Bony impaction)  เป็นฟันคุดที่มีกระดูกคลุมตัวฟันบางส่วนหรือทั้งซี่ ฟันคุดประเภทนี้มักจะพบจากการถ่ายภาพรังสี และจะมีความยากกว่าในการผ่าตัด เนื่องจากจะต้องมีการกรอกระดูกหรือกรอฟันร่วมด้วย รู้ได้อย่างไรว่ามีฟันคุด ฟันคุดมีหลายแบบ บางกรณีอาจจะมองไม่เห็นได้ด้วยตา หรือคลำได้ในช่องปาก เพราะฟันไม่สามารถโผล่พ้นเหงือกตามแนวฟันปกติได้ แต่สามารถสังเกตฟันคุดได้ ดังนี้1. เริ่มมีการปวดหรือเจ็บเมื่อสัมผัสบริเวณฟันคุด รู้สึกเจ็บเหงือกที่คลุมฟันคุด หรือเมื่อกัดหรือเคี้ยวอาหารโดนบริเวณฟันคุดอาจทำให้รู้สึกปวดได้2. มีอาการเหงือกบวมแดง…

  • รักษารากฟัน

    เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน การรักษารากฟันคืออะไร การรักษารากฟัน คือ การรักษาที่มีจุดประสงค์เพื่อเก็บรักษาฟันธรรมชาติที่มีการอักเสบ หรือติดเชื้อในคลองรากฟัน ให้คงอยู่ในช่องปาก และสามารถใช้งานต่อได้ตามปกติ โดยใช้วิธีทางทันตกรรมต่างๆมาทำความสะอาดในคลองรากฟันให้ปราศจากเชื้อโรคและป้องกันการติดเชื้อต่อไปในอนาคต สาเหตุของการรักษารากฟัน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้สามารถทำให้เชื้อโรคลงไปสู่โพรงประสาทฟัน ก่อให้เกิดอาการอักเสบของโพรงประสาทฟัน และก่อให้เกิดอาการฟันตายได้ หากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดการสะสมของหนองในเนื้อเยื่อที่ปลายรากฟันบริเวณกระดูกขากรรไกร ทำให้สร้างความเจ็บปวด เกิดอาการบวม และเป็นหนองออกมาที่ผิวหนังได้ อาการที่เกิดมาจากรากฟันอักเสบติดเชื้อ 1. ปวดฟันโดยไม่ทราบสาเหตุมีอาการปวดฟัน บางครั้งอาจจะเป็นอาการปวดฟันเพียงเล็กน้อย จนถึงมีอาการปวดอยู่ตลอดเวลา ปวดขึ้นเอง หรือปวดจนนอนไม่ได้2. ปวดฟันระหว่างกัดฟันหรือเคี้ยวอาหาร มีอาการปวดฟันเมื่อบดเคี้ยวอาหาร ผลไม้หรือน้ำแข็ง ปวดลึกจนถึงเหงือก ปวดร้าว ถือเป็นสัญญาณเตือนที่อาจจะเกิดจากฟันร้าวได้3. รู้สึกเสียวฟันมาก เวลาทานของร้อนและของเย็น มีอาการเมื่อรับประทานอาหารทั้งของร้อน และของเย็นจนมีอาการเสียวฟัน หรือปวดฟันขึ้นมา และมีอาการปวดคงอยู่4. ปวดและเหงือกบวมจากอาการเหงือกติดเชื้อ มีหนอง ซึ่งมักจะมีอาการเป็นๆหาย ๆ5. มีอาการบวมในปาก แก้ม คาง หรือหน้าโดยมักจะมีไข้ หรืออาการปวดร่วมด้วย การเตรียมตัวก่อนการรักษารากฟัน ขั้นตอนการรักษารากฟัน การปฏิบัติตัวหลังจากรักษารากฟัน